ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีมชาติไทย ที่มากประสบการณ์เคยลง แข่งกับทีมชาติญี่ปุ่น ด้วยประสบการณ์ ที่มากมายของเขา

ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีมชาติไทย เคยได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องฟุตบอลไทย กับสื่อชื่อดังเอาไว้ เรียกได้ว่า สร้างแรงสั่นสะเทือน ให้กับหลายฝ่าย ที่อยู่ในวงการ ลูกหนังไทย

โดยกัปตันคนนี้ ธีราทร บุญมาทันประวัติ นั้นก็ไม่ธรรมดา เป็นนักเตะของ บุรีรัมย์ยูไนเต็ด ในตำแหน่งแบ็คซ้าย จนได้ฉายาว่า อีซ้ายมหัศจรรย์ นั่นเอง

หลังจากที่ ‘ทีมชาติไทยต้อง พ่ายแพ้ในนัด การแข่งขันระหว่าง อุซเบกิสถาน 0-2 จากเหตุการณ์นี้ มีหลายสิ่งที่ต้อง นำมาปรับปรุง อีกมากมาย

ธีราทร บุญมาทันบุรีรัมย์ เคยเป็นหนึ่งใน ทีมคว้าแชมป์ ไทยลีก 7 สมัย กับสโมสรการไฟฟ้า, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ดแชมป์ เจลีก คือตำนานนักฟุตบอล สัญชาติไทย คนเดียวที่ได้มี โอกาสไปลงเล่นกับ โยโกฮามะ มะรินอส

ดังนั้น คำพูดของนักฟุตบอล ที่มีประสบการณ์ ที่มากมายอย่างเขา ถือว่ามีเหตุผลเพียงพอ ที่จะทำให้หลายฝ่ายที่มี ส่วนเกี่ยวข้อง หันหน้ามาหาร่วมกันพัฒนา และแก้ไขปัญหา ที่ได้รับบทเรียนจาก เอเชียน คัพ 2023 รอบคัดเลือก

ธีราทร บุญมาทัน ประเด็นแรก เขาได้พูดถึง เรื่องของสภาพจิตใจ เขามีความคิดเห็นว่า นักฟุตบอลทีมชาติไทย จะต้องไม่กลัว หากจะต้องลงแข่ง กับทีมที่เก่งกว่า

เป็นเพราะว่า ถ้าลงสนามไปด้วย ความหวาดกลัว ผลการแข่งขันที่จะชนะฝ่ายตรงข้าม คงจะเป็นไปได้ยาก ขึ้นอยู่กับความคิดและทัศนคติล้วน ๆ

ประเด็นที่สอง เขามองว่า ความพร้อมของร่างกาย ในนักฟุตบอลหลาย ๆ คน นั้นมีไม่เท่ากัน เป็นผลมาจาก การที่รายการแข่งขัน ฟุตบอลในประเทศไทย มีระยะเวลา ที่ค่อนข้างยาวนาน ส่งผลให้ สภาพร่างกาย ที่เคยสมบูรณ์ กลายเป็นเกิดความเหนื่อยล้า

แรงปะทะ ถือว่าเป็นเรื่องที่ สำคัญของฟุตบอล ในยุคปัจจุบันนี้ ซึ่งเขารู้ดีแน่ ๆ เนื่องจากประสบการณ์ ที่ได้ลงแข่งขัน ในรายการ เจลีก เรียกได้ว่าเป็น ลีกอันดับ 1 ของเอเชีย จึงทำให้ได้เรียนรู้ เทคนิคต่าง ๆ และการเตรียมตัว ที่มีความเป็นมืออาชีพ

อีกทั้งเขา ยังพูดในเรื่องของ กล้ามเนื้อที่เป็น อีกส่วนสำคัญ เนื่องจากในการแข่งขัน จะมีตอนที่ต้องสปริ้นท์, การกลับตัว หรือท่าทางต่าง ๆ

ระหว่างที่ลงแข่งขัน ถ้านักเตะมีร่างกาย ที่สมบูรณ์แข็งแรง ก็จะทำให้ ต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามได้ อีกทั้งยัง สามารถแข่งขัน ได้ตามรูปแบบ ที่โค้ชได้กำหนดไว้

แต่ถ้าหากเรื่องดังกล่าว ยังไม่สมบูรณ์ ก็เหมือนกับว่า นักเตะในทีมเป็นรอง ฝ่ายตรงข้าม ไปแล้วในเรื่องนี้ โดยเฉพาะถ้าต้องเจอ กับทีมที่มีศักยภาพ ที่เหนือกว่า ก็เหมือนกับว่า ความหวังที่จะชนะ ดูน้อยลงไปอีก

ประเด็นที่สาม เขามีความเห็นว่า ประเทศไทย อาจจะต้องข้ามผ่าน อาเซียนไปได้แล้ว เนื่องจากหากต้องการ จะยกระดับให้สูงขึ้น รายการแข่ง ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำเป็นต้องใช้ความกล้า ในการเอาเยาวชน ลงสนามในรายการนี้

ธีราทร บุญมาทัน ยังพูดเสริมขึ้นว่า ในตอนแรก ๆ อาจจะเตรียมใจ รับผลที่จะตามมา ก็คือยังไม่สามารถ คว้าถ้วยรางวัลได้ เช่นเดียวกับ ทีมชาติญี่ปุ่น ที่เอานักเตะ รุ่นอายุไม่เกิน 17 หรือ 18 ปี ลงแข่งขันกับทีม ที่มีนักเตะอายุ 21 ของประเทศอื่น ๆ

แต่กลายเป็นว่า สิ่งที่ได้ในอนาคต นั้นยืนยาว และมั่นคงกว่า เนื่องจากสิ่งที่ทำ เป็นเหมือนการ วางแผนให้ นักเตะในทีม เกิดความท้าทาย และตื่นตัวมาก เมื่อต้องเจอกับ สถานการณ์เช่นนี้

ทีมของญี่ปุ่น ถือว่าคือตัวอย่าง ที่ดีในการพัฒนา รูปแบบของการ วางแผนฟุตบอล โดยพวกเขา กว่าจะสำเร็จ ไม่ใช่ภายใน 1-2 ปีเท่านั้น ถึงจะอยู่ในจุด ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่ต้องอาศัย ความอดทน และความตั้งใจ อย่างแน่วแน่ ที่จะทำตามแผนการ ที่ได้กำหนดไว้ อย่างเป็นระบบ

ทีมฟุตบอล เยาวชนประเทศญี่ปุ่น เรียกได้ว่า ล้มลุกคลุกคลาน อยู่ไม่ใช่น้อย ในตอนเริ่มต้น ที่เอาทีมแข่งขัน ในรายการระดับโลก อีกทั้งยังต้อง รับมือเรื่องของอายุ

แต่หลังจากที่ ทุกอย่างเริ่มเข้าที่ ความชำนาญ และประสบการณ์ จะค่อย ๆ เกิดขึ้นมานั่นเอง นักฟุตบอลที่ยัง เป็นวัยรุ่นก็จะได้ เรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ ก็คือการที่เป็นทีม ที่แข็งแกร่งมาก มาจนถึงปัจจุบันนี้

ซึ่ง ทีมชาติไทย อาจจะไม่ต้อง ทำตามแบบญี่ปุ่น ทุกขั้นตอนก็ได้ แต่ว่าก็ควรที่จะนำไปเป็น กรณีศึกษาไว้บ้าง เนื่องจากตัวอย่างดี ๆ นั้นมีให้เห็นอย่าง ชัดเจนอยู่แล้ว 

ข่าวกีฬาในประเทศ ประเด็นที่สี่ ที่เขาได้แสดง ความคิดเห็นว่า ควรได้รับการแก้ไข อย่างจริงจัง ก็คือการตั้งข้อกำหนด ในการจัดการแข่งขัน ที่ชัดเจน

ซึ่งแฟนบอลชาวไทยหลายคน น่าจะพอคาดเดาได้ถึง ปัญหาที่เกิดขึ้น ตลอดในปีที่ผ่านมา ในเรื่องของการ ปรับเปลี่ยนตาราง ที่ค่อนข้างวุ่นวาย ทำให้ส่งผลกระทบ มาที่ทีมชาติไทย

จึงทำให้นักฟุตบอล แทบจะไม่มีเวลา ได้ฝึกซ้อมร่วมกันเลย ในการแข่งขันแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ถือว่าเป็นนัดที่ นักเตะยังได้ ลงสนามพร้อมกัน

อีกทั้งแต่ละคน นั้นเคยลงแข่งขัน ร่วมกันมานาน ทำให้สามารถ คว้าแชมป์มาได้สำเร็จ ทั้ง ๆ ที่นักเตะเพิ่งจะ รวมตัวกันไม่กี่วัน

หากจะพูดถึง เอเชียน คัพ 2023 ในรอบคัดเลือก ถือว่าโชคดีที่ผ่าน เข้าไปในรอบสุดท้าย ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ แต่ก็ไม่ใช่ว่า จะไม่พบกับอุปสรรค เนื่องจากกว่าที่นักฟุตบอลทั้ง 23 คน จะมารวมตัวกันได้ นั้นใช้เวลาสักระยะเลย

เพราะว่าบางคน มีการแข่งขัน อยู่กับสโมสร จึงทำให้ไม่สามารถ มาฝึกซ้อมกับนักเตะในทีม ได้ตามเวลาที่กำหนด ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ เขาได้พูดอย่างจริงจังว่าจะต้องจัดการ ให้มีความชัดเจน และถูกต้องที่สุด เพราะไม่เช่นนั้น ผลงานที่ได้ ก็จะสะท้อนถึง การจัดการภายในนั่นเอง

คุณสามารถติดตาม ความเคลื่อนไหวของเขา กันได้ที่อินสตราแกรม ธีราทร บุญมาทันig ” theerathon_3 ” และหากสาว ๆ แฟนบอล ที่คลั่งไคล้เขาล่ะก็ คงต้องหักห้ามใจสักหน่อยเพราะ ธีราทร บุญมาทันแต่งงาน แล้วเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา

ติดตามเรื่องราว ของกีฬากันต่อ >>> ซาล่าห์คว้ารางวัลใหญ่ >>> คืนชีพฟุตบอลเวียดนาม

เรียบเรียงโดย อลิส