ตั้งแต่เป็นข่าวแล้ว ที่ทำให้แฟนคลับ แมนยูล่าสุด ดีใจนานถึง 13 เดือนที่คิดเอาเองว่าจะได้ เจ้าของแมนยู คนใหม่และในที่สุดก็ได้ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ที่สามารถบรรลุข้อตกลงคือเข้าซื้อหุ้น 25% ที่มีมูลค่าถึง 1.03 พันล้านปอนด์ หรือประมาณ 45,000.-ล้านบาท ซึ่งมันไม่ใช่การเทคโอเวอร์แบบทั้งหมดที่ต่างจาก ฟุตบอลไทย บางทีม
เพราะว่าทางเซอร์จิม เจ้าของแมนยูคนใหม่ เข้าไปติดต่อตั้งแต่ตอนที่ เจ้าของแมนยูคนเก่า อย่างตระกูลเกลเซอร์ ประกาศหาผู้ร่วมลงทุน หรืออาจจะเข้าขั้นขนาดขายทั้งสโมสรเลยก็ได้ แม้คนไทยบางคนอยากจะเป็นเจ้าของแต่เรื่องนี้ยากยิ่งกว่าถูกรางวัลที่ 1 จากการติดตาม หวยเดลินิวส์ 16/7/67 ซะอีก
เจ้าของแมนยู รายใหม่ที่สนใจเข้ามาร่วมลงทุนคือกลุ่มทุนกาต้าร์
ตามที่เราๆ เข้าใจกันว่าได้มีกลุ่มทุนของกาต้าร์ คือชีค บิน ฮาหมัด อัล ธานี ที่ตั้งใจจะเข้ามาขอ ซื้อแมนยูล่าสุด แบบ 100 % พร้อมทั้งยื่นข้อเสนออยากจะชำระหนี้ให้ หมายรวมถึงการเทคโอเวอร์สโมสรทั้งหมด ที่เป็นคู่แข่งคนสำคัญอย่าง เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ เจ้าของปิโตรเคมี อีเนออส ที่ใครก็รู้ว่าเขาคือมหาเศรษฐีชาวอังกฤษ ที่ตอนแรกคิดจะซื้อทีมเชลซี ด้วยการยื่นข้อเสนอขอเข้าซื้อตอนแรก 69% ก่อน
ซึ่งต่อมาที่มีการเจรจาดีลกันไปมาจนในที่สุดก็ตกลงกันได้แค่ 25% เท่านั้น ทำให้งานนี้ทางฝ่าย ชีค ยาสซิม ก็เลยยอมแพ้ถอยกลับไป ทำให้หลายคนก็หันกลับมามองว่าความจริงแล้วพวกตระกูลเกลเซอร์ไม่ได้อยากจะขายทั้ง 100 % เพราะว่าน่าจะมองออกว่ายังสามารถหาเงินจากทีมสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งนี้ได้อีกต่อไป ทำให้ตระกูลเกลเซอร์ก็ยังอยากที่จะมีการบริหารอยู่ทำให้งานนี้เลยจบกันได้กับทาง เซอร์จิม ซื้อแมนยูล่าสุด ไม่แน่นะว่าเซอร์จิมน่าจะมีข้อเสนอที่ดี และได้ใจตระกูลเกลเซอร์นั่นเองค่ะ
ตัวเลขของราคาต่อหุ้น 25% มีสื่อที่รายงานไม่ตรงกัน
เราจะมาดูกันนะคะว่าจากสื่อชื่อดัง จากหลายแหล่งเขารายงานมูลค่าหุ้น 25% การเข้าซื้อของ เจ้าของแมนยูคนใหม่ มันต่างกันขนาดไหนกันก่อนอื่นเราไปดูกันค่ะว่ามีสื่อสำนักไหนกันบ้าง
เริ่มต้นที่ บีบีซี และเทเลกราฟ รายงานว่าเป็นจำนวนเงินมูลค่า 1.03 พันล้านยูโร
แหล่งต่อมาคือ เดอะไทมส์ รายงานว่าแค่ 1.25 พันล้านยูโร
และจากเดอะ การ์เดี้ยน ได้รายงานไว้ว่า 1 พันล้านยูโร
สุดท้ายก็คือค่าย ดิ แอธเลติก UK รายงานที่ 1.3 พันล้านยูโร
1.อย่างแรกเราอยากจะทราบก่อนว่าเพราะเหตุใดทางตระกูล เกลเซอร์ ถึงไม่ยอมขายให้กับ ชีค ยาสซิม ความจริงก็น่าจะมาจากว่าทีมปีศาจแดงควรจะมีราคาที่มากกว่าราคาตลาดหลักทรัพย์ ที่กำหนดเอาไว้ถึง 2,500 ล้านยูโร ซึ่งพวกเขาก็เลยมองว่าราคานอกตลาดควรจะอยู่ที่ประมาณ 4 พันล้านยูโรที่พวกเขาสมควรจะได้จาก ชีค ยาสซิส
ที่สำคัญคือการเทคโอเวอร์ครั้งที่ทาง ชีค ยาสซิม จะมีปิดดีลกันก็แค่ 2.6 ล้านยูโร ซึ่งมันไม่ได้มากกว่าตลาดเท่าไร และอีกก้อนที่น่าจะได้ก็คือ 1.4 พันล้านยูโรที่ต้องการนำไปปรับปรุงและต่อเติมสนามของตัวเองอย่างโอลด์แทรฟฟอร์ด และอีกที่คือสนามซ้อมอย่างสปอร์ต คอมเพลกส์ ทำให้แบบนี้ตระกูลเกลเซอร์คิดว่าเหมือนไม่ได้อะไรบทสรุปของส่วนนี้ก็คือทาง เกลเซอร์ โลภเกินไป
2.เป็นไปตามกลเม็ดและทีเด็ดของทาง เซอร์ จิม เจ้าของแมนยูคนใหม่ เพราะตามที่มีข่าวออกมาจากวงในบอกว่า ทางเซอร์จิมได้มีการปรับราคาซื้อหุ้น 69% ให้เหลือแค่ 25% ซึ่งพวกเขาเฝ้าพยายามและตามตื้อไปถึงบ้านที่นิวยอร์ค แถมยังไปมาหาสู่และพูดคุยอย่างอดทนทั้งๆ ที่รู้ว่าทางกลุ่มเกลเซอร์นั้นก็ไม่ได้อยากขายทั้งหมด
ทำให้เซอร์จิม ซื้อแมนยูล่าสุด ก็เลยเดินเกมที่เรียกว่าเกมอดทนนั่นเอง และถึงแม้ว่าจะได้ร่วมลงทุนแค่กลุ่มคลาสบีเท่านั้นและสิทธิ์ในการโหวดก็จะน้อยกว่าคลาสเอ ซึ่งแค่ตรงนี้ก็จะทำให้กลุ่มของทางเกลเซอร์มีส่วนต่างที่จะเข้ากระเป๋าไปถึง 650 ล้านยูโรนั่นเอง
3.เซอร์จิม เป็นผู้ช่ำชองของจริงถ้าจะต้องเป็น โค้ช แมน ยู ก็น่าจะเป็นได้ เพราะว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่มีมูลค่าและติดอันดับความร่ำรวยประมาณ 550,000.- ล้านบาทนั่นเอง เพราะว่าเขาเป็นนักธุรกิจ ที่ชอบเข้าซื้อในกีฬาหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นทีมจักรยานอาชีพอย่าง Ineos Grenadiers , ทีมเรือใบ Ineos Britannia , ยังถือหุ้นใหญ่กับทีมเอฟวัน เมอร์เวเดส นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนทีมรักบี้นิวซีแลนด์, เอลิอุด คปโซเก้ ที่เป็นนักวิ่งมาราธอนระดับโลก
นอกจากนี้ก็ยังมีทีมที่อยู่ในดูแลอย่าง ทีมฟุตบอล เอฟซี โลซาน-สปอร์ต 2017 และทีมฟุตบอล นีซ ในลีกเอิง 2019 และเท่านี้ก็น่าจะเป็นการยืนยันได้แล้วว่าเขานั้นมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการกีฬาขนาดไหนกันที่เหมาะสมจะเป็นเจ้าของทีม แมนยูล่าสุด
สรุปว่า เจ้าของแมนยู ที่เข้ามา ผู้ถือหุ้นแมนยู รายใหม่ที่มีส่วนในการบริหารทีม แมนยูล่าสุด
สิ่งที่พอจะยืนยันความเป็นตัวตนของเซอร์จิมอย่างหนึ่งได้ว่า เขาก็คือแฟนพันธ์แท้ของแมนยู ตั้งแต่เขาเกิดมา เซอร์ จิมได้เกิดที่ท้องถิ่น เฟลเวิร์ธ ละแวก โอลด์แฮม และเขามีบ้านที่อยู่ไกลจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ดแค่ 8 ไมล์และตั้งแต่หลายปีที่ผ่านมาเขาก็แสดงให้เห็นแบบชัดเจน ว่าเขาคือแฟนแมนยูตัวจริงเสียงจริง ถึงแม้จะไม่เคยไปถ่ายรูปแถวๆ โลโก้แมนยูเท่ๆ
เขาเคยติดตามไปเชียร์ทีมฟุตบอลอันเป็นที่รักของเขาหลายแมทซ์ ทำให้เมื่อได้มีการแถลงข่าวการเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วน แบบ 25% ครั้งนี้ของเขา เขาได้ประกาศแบบเสียงดังฟังชัดเลยว่า เขาจะนำเอาทีมแมเชสเตอร์ยูไนเต็ด กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ซึ่ง เจ้าของแมนยู คนนี้จะทำได้หรือไม่เราต้องตามไปดูกันนะคะ ที่เขาจะสามารถสร้าง ดาวซัลโวยูฟ่า หรือปั้นนักเตะดังๆที่อาจจะขึ้นแท่นเป็นกุนซืออย่าง ผู้จัดการบาเยิร์น อีกกี่คนกันจริงไหมคะ