ในบทความนี้เราจะได้มาทำความรู้จักกับ เจ้าของแมนซิตี้ สโมสรที่เคยล้มลุกคลุกคลานมาก่อน แต่ในที่สุดก็สามารถพัฒนาฝีมือจนได้มาอยู่ในแถวหน้าของลีกดังอย่างอังกฤษ เคยแอบคิดอยู่แว็บๆ ว่าเมื่อไหร่ ฟุตบอลทีมชาติไทย จะได้ไปโลดแล่นอยู่ในลีกดังอย่างอังกฤษบ้าง แต่ถ้าหากว่าจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ ก็คงต้องรอดูกันต่อไป เพราะถ้าหากจะเทียบความเก๋ากันแล้วล่ะก็ ถือว่าทีมชาติไทยยังเป็นทารกของลีกฟุตบอลอังกฤษหลายขุมเลยทีเดียว
และวันนี้ที่เราได้หยิบยกเอาเรื่องราวของ เจ้าของสโมสรแมนซิตี้มาให้ทุกท่านได้รู้จักกันนั้นก็สืบเนื่องมาจาก ในบทความก่อนหน้าเราเคยได้นำเอาเรื่องราวของ เจ้าของเชลซี และ เจ้าของแมนยู ที่มีเรื่องราวไม่ได้แพ้กันเลย มาแนะนำกันไปแล้วทำให้วันนี้คิดว่า น่าจะได้เวลาที่เราจะต้องแนะนำคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จและมีอำนาจเต็ม ของทีมที่อยู่อันดับหนึ่งของพรีเมียร์ลีก
เจ้าของแมนซิตี้ กับคีย์แมนหลักที่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังทุนอันมหาศาล ในการใช้บริหารทีมของสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ เขาได้มีส่วนช่วยซึ่งจะเรียกว่าเป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญ ที่ทำให้สโมสรมีการพัฒนาไปแบบก้าวกระโดด ซึ่งพวกเขาก็คือกลุ่มทุนที่เรียกว่า กลุ่มทุนอาบูดาบี เป็นกลุ่มทุนที่ได้เข้ามาอยู่ ในวงการฟุตบอลแบบไร้พรมแดน
ถ้าหากจะพูดว่า การที่ทีมเรือใบสีฟ้า อย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ได้เติบโต และกลายเป็นทีมที่อยู่ในระดับแนวหน้า ของโลกฟุตบอลได้มาจากการที่กลุ่มทุนนี้ เข้ามาเทคโอเวอร์ แค่นั้นยังไม่พอยังมีคีย์แมนอีก 2 คนที่เปรียบเสมือนเป็นคนถือกุญแจที่สำคัญของความสำเร็จนี้อย่างน้อยก็สองคนคือ ชีค มานซูร์บิน ซาเยด อับ นาห์ยัน ที่ถือว่าเป็นเจ้าของปัจจุบัน แต่ยังมีอีกคนที่มีอิทธิพลด้วยคือ คาลดูน อัล มูบารัค
ในฤดูกาล 2022-2023 ที่ผ่านมานี้ เราทุกคนต่างก็ทราบดี ว่า แมนซิตี้ ล่าสุด สามารถคว้าทริปเปิ้ลแชมป์มาได้ ซึ่งนั่นก็คือแชมป์พรีเมียร์ลีก แชมป์เอฟเอคัพ และแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก หรือที่เราทราบว่าก็คือแชมป์ของยุโรปนั่นเองค่ะ
ตั้งแต่ตอนปี 2008 ทีมนี้เคยอยู่ในความดูแลของ ทักษิณ เจ้าของแมนซิตี้เรียกได้ว่าเขาก็คือ เจ้าของ แมน ซิตี้ คนไทย คนเดียวที่เคยได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของทีมนี้ซึ่งในปี 2009 ก็ได้พ้นไปจากตำแหน่งประธานสโมสรกิติมศักดิ์ ก็ตอนที่เขามีปัญหาทางการเมืองทำให้ทีม แมนซิตี้ ล่าสุด จำเป็นที่จะต้องเข้าสู่ยุคใหม่อย่างแท้จริง
สำหรับเจ้าของแมนซิตี้ ประวัติ กับ 2 คีย์แมนและ 2 บุคคลที่ถือว่าเป็นกุญแจสำคัญ
เรื่องราวเจ้าของแมนซิตี้ ประวัติ ที่พอจะบอกเล่าได้ว่าเมื่อทีมแมนซิตี้ได้ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มทุนอาบูดาบีแล้วก็ทำให้มี 2 คีย์แมนที่กลายเป็นคนสำคัญอย่าง ชีค มานซูร์ ได้มีการลงนามในข้อตกลงเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2008 มีขั้นตอนและกระบวนการการตรวจสอบและได้เสร็จสิ้นก็เป็นเดือน ก.ย. ปีเดียวกันเลย
และเมื่อเสร็จสิ้นการเข้าครอบครองกิจการเรียบร้อย อัล ฟาฮิม ก็ได้สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจ ให้กับวงการฟุตบอลด้วยการวางแผนการจ่ายอย่างมหาศาล เพื่อต้องการที่จะเรียกตัวนักเตะ ที่มีพรสวรรค์ที่ถือว่ามีความสามารถมากๆ ในโลก ซึ่งดีลแรกของพวกเขาก็คือ การไปซื้อตัวเอา โรบินโญ ที่เป็นยอดนักเตะชาวบราซิล ซึ่งไม่ต้องถามว่าค่าตัวจะสักเท่าไร เอาเป็นว่าสูงมากๆ เพราะไม่งั้นทีมเรอัล มาดริด เป็นอีกหนึ่งสโมสรที่ร่ำรวยด้วยเช่นกัน ไม่น่าปล่อยตัวให้มาอย่างเด็ดขาด
ซึ่งต่อมาอีก 1 สัปดาห์ อัล-ฟาฮิม ก็ถูกปลดออกเฉยเลย แล้วให้ มีคลาดู อัล มูบารัก เข้ามานั่นแทนที่และควบตำแหน่งประธานสโมสรจนถึงวันนี้ด้วยค่ะ
นาย ชีค มานซูร์ เขามีเชื้อสายอยู่ในราชวงศ์แถมยังเป็นนักการเมืองของเอมิเรตส์ และก็ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีและรองนายกรัฐมนตรี ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และยังเป็นอะไรอีกหลายตำแหน่งของบ้านเมืองด้วยค่ะไม่รู้เหมือนกันนะคะว่าเขาบริหารเวลาอย่างไรและก็ยังไม่ทราบอีกด้วยว่าเจ้าของแมนซิตี้มีกี่ทีม กันแน่ที่เขากว้านซื้อเอาไว้
แต่ที่แน่ๆ เขาคนนี้ถือว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลอันดับต้นๆระดับประเทศ เรียกได้ว่าเป็นดังระดับโลก ที่คนส่วนใหญ่รู้จักเขาก็ในฐานะ เจ้าของเอดียูจี คือบริษัทที่ทำการด้านการลงทุน ของราชวงศ์อาบูดาบี และยังเป็นผู้ที่เข้าซื้อกิจการ สโมสรแมนซิตี้ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจเต็ม รวมถึงการแสดงความเป็นเจ้าของทั้งหมดให้กับ คาลดูน อัล มูลบารัคเจ้าของแมนซิตี้ ประวัติ ดีงามอีกคน
สรุปแล้ว แม้จะไม่ใช่ เจ้าของแมนซิตี้ โดยตรงแต่ก็ทำงานเสมือนเจ้าของ เจ้าของแมนซิตี้ปัจจุบัน
ทำให้ คาดูน อัล มูลบารัค เปรียบเสมือนมือขวาของ ชีค มานซูร์ เลยทีเดียว นอกจากนี้เขาก็ยังมีตำแหน่งทางบ้านเมือง คือเจ้าหน้าที่รัฐและผู้นำธุรกิจบางอย่างของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอีกหลายหน้าที่ที่ยาวมากๆ แต่มีฐานะหนึ่งคือการเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและเป็นกรรมการของทาง Mubadala Investment company คือนั่งตำแหน่งคณะกรรมการของบริษัทน้ำมันแห่งชาติ และยังเป็นประธานบริหารกิจการสมาชิกสภาบริหารเอมิเรตแห่งอาบูดาบีอีกด้วย
ทำให้ เจ้าของแมนซิตี้ คนใหม่ที่เราได้เล่าเรื่องราวของเขามาทั้งหมดนี้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ ที่ทำให้ทีม แมนซิตี้ ล่าสุด กลายเป็นทีม ที่ประสบความสำเร็จแบบยิ่งใหญ่มาได้ ตั้งแต่ที่พวกเขาได้บริหารมา เพราะนอกจากจะเป็นทีมที่เก่งแล้ว ก็ยังเป็นกลุ่มทุนที่พร้อมจะสนับสนุน ให้ทีมมีความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่อีกด้วยค่ะ