ในความเป็นจริงการที่ทีมฟุตบอล ได้เจ้าของทีมที่ดีก็ถือว่าเป็นผลกำไรที่คุ้มค่าซึ่ง เจ้าของอาร์เซนอล อย่าง สแตน โกรเอ็นเก คือ เจ้าของทีมปืนใหญ่ ที่ถือว่า เป็นผู้บังคับบัญชาพร้อมกับเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับธุรกิจ ทุกอย่างที่เขาทำอยู่ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือทีมฟุตบอลชื่อดังอย่างทีม ปืนใหญ่ อาร์เซนอล เรียกว่าดังไม่ได้แพ้ ดาวซัลโว บุนเดสลีกา หรือ เจ้าของแมนซิตี้ และยิ่งถ้าเป็น ฟุตบอลทีมชาติจีน ด้วยแล้วบอกเลยล้ำหน้าหลายขุม
ในบทความนี้เราจะพักเรื่องราวของ เจ้าของ แมน ซิตี้ คนไทย แต่ว่าจะพาทุกท่าน ไปรู้จักกับเขาคนนี้เลย สแตน โกรเอ็นเก ที่ใครๆ มักจะเรียกเขาว่า เจ้าของทีมปืนใหญ่ สุดเขี้ยวของทีมปืนใหญ่อาร์เซนอล และเขาคนนี้เป็นใครมาจากไหนกันแน่ แล้วทำไมบรรดาแฟนบอลของอาร์เซนอลกลับไม่ชอบเขา
นอกจากจะเป็น เจ้าของอาร์เซนอล แล้วยังเป็นเจ้าของ Kroenke Sports & Entertainment
พื้นเพของเขาคนนี้คือนักธุรกิจสัญชาติอเมริกัน ที่นอกจากจะเป็น เจ้าของทีมปืนใหญ่ อย่างที่ทราบกันอยู่แล้ว เขายังเป็นเจ้าของ Kroenke Sports & Entertainment คือองค์การที่ดูแลกิจการทางด้านกีฬาของอเมริกันเกมเป็นส่วนใหญ่ และเขาได้เข้าไปเทคโอเวอร์ทีมอาร์เซนอลอย่างสมบูรณ์และเต็มตัวคือปี 2016
ซึ่งในตอนนั้นจ่ายเพื่อซื้อสโมสรนี้ไปคือ 600 ล้านปอนด์ และเมื่อเขาเข้าไปเทคโอเวอร์เรียบร้อย ในฤดูกาลต่อมาผลงานของทีมปืนใหญ่อาร์เซนอล ก็ร่วงซะจนเกือบจะลืมไปแล้ว ว่าเคยเป็นท็อปโฟว์ ซึ่งมีสายรายงานว่าตัวเขาไม่เคยเข้าไปชมการแข่งขันในสนามแม้สักเกมเลยทีเดียว ทำให้หลายคนต่างก็ลงความเห็น ว่าเขานั้นมักจะอนุมัติเงินที่ถือว่าน้อยมากๆ ถ้าหากเทียบกับจำนวนทรัพย์สินที่เขามีซะอีก
เคยมีเรื่องราวที่หลายคน คงจะเคยได้ยินมาก่อนแล้วคือหลังจากที่ทีม ได้มีการตัดสินใจจะเข้าร่วมศึกใน ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก ทำให้ศึกนี้กลายเป็นเหมือนราดน้ำมันไปบนกองเพลิง ทำให้เกิดมีการประท้วง จากบรรดาแฟนบอลทั่วโลกที่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากกว่าทุกครั้ง โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษที่เฉพาะเจาะจงไปที่ นายใหญ่ อาร์เซนอล อย่าง โกรเอ็นเก แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถทำอะไรให้เขาสะเทือนได้แต่อย่างใดซึ่งความเก๋าไม่ได้แพ้ เจ้าของสโมสรลิเวอร์พูล และ เจ้าของแมนซิตี้
จริงหรือที่เมินข้อเสนอมหาศาลมากถึง 2,500 ล้านปอนด์
ความจริงพวกเซียนมักจะมองว่า มีการยื่นข้อเสนอที่เป็นจำนวนมหาศาล ตอนช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมากับตัวเลขมากถึง 2,500 ล้านปอนด์ เขาน่าจะรีบตาโตและตะครุบไว้ทันที แต่ว่ากลับถูกปัดตกไปซะงั้น พร้อมกับบอกไปแบบชัดๆ ว่าไม่เคยคิดจะขายทีม แถมยังได้ยืนยันต่อหน้าแฟนบอลอีกด้วย ว่าเขาจะต้องพาทีมให้กลับมาเจอกับความยิ่งใหญ่เหมือนในอดีต เพื่อจะมอบให้เป็นของขวัญแฟนบอลอีกครั้งให้จงได้
ซึ่งพอได้ลั่นวาจาออกไปแบบนี้เขาก็เริ่มดำเนินการอนุมัติงบเกี่ยวกับ นักเตะ อาร์เซนอล ที่จะนำไปช่วยส่งเสริมให้กับทีมอย่าง นักเตะอาร์เซนอลทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นงบที่มีจำนวนมหาศาลให้กับทีมอาร์เซนอล แต่ว่าโปรไฟล์ที่ไม่ได้เป็นผู้เล่นในระดับโลก แถมยังเป็นช่วงฟอร์มที่ย่ำแย่ของทีมในตอนนั้น
รวมไปถึงความไม่ค่อยจะชอบใจ เกี่ยวกับตัว นายใหญ่ อาร์เซนอล เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้พวกกระแสข่าวในเชิงลบของเขาไม่ได้น้อยลงไปเลยอีกด้วย
ซึ่งนั่นก็จะหมายความว่ามันไม่ใช่ว่า จะทำกันได้ง่ายๆ ที่ทางนายใหญ่อย่างโกรเอ็นเก เขาจะยอมขายทีมในเวลานี้ และยิ่งถ้าหากเราหันกลับไปดูทางฝั่งของ เอ็ก ที่มีทรัพย์สินมากมายถึง 4.4 พันล้านเหรียญ ทำให้การที่พวกเขาจะต้องใช้ทุนเพื่อการส่งเสริมให้ทีมเกิดขึ้นมา ด้วยการต้องเสริมงบ เพื่อเข้าซื้ออาร์เซนอลซึ่งจะเป็นจำนวนเงินที่มากมาย อาจจะกลายเป็นความเสี่ยงที่ดูแล้วก็น่าจะอันตรายอย่างมาก
เพราะว่าสุดท้ายแล้ว ก็ต้องตามไปดูกันต่อว่า นายใหญ่ อาร์เซนอล ตัวจริง ตอนนี้ที่ถือว่าสุดแสนจะเขี้ยวของอาร์เซนอล เขาจะเดินหมากเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งในฐานะที่เราก็เป็นคนหนึ่งที่นิยมชมชอบทีมอาร์เซนอล ก็ต้องติดตามข่าวกันแบบใกล้ชิดอย่างมากเลยทีเดียวค่ะ
สรุป เจ้าของอาร์เซนอล อย่าง โกรเอ็นเกก็คือนักธุรกิจตัวพ่อ
ที่สุดแล้วทุกคนต่างก็มองออกว่า พื้นเพดั่งเดิมของ เจ้าของอาร์เซนอลล่าสุด คนนี้ โกรเอ็นเก เขาก็คือนักธุรกิจตัวพ่อ และการที่มีเป้าหมายและเข้ามาซื้อกิจการทีมอาร์เซนอลไป ก็ย่อมจะต้องหวังผลกำไร ซึ่งในแง่ของธุรกิจก็คือต้องคิดเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว ทำให้ไม่ใช่เรื่องแปลกนะ ที่บรรดาแฟนบอลของทีมปืนใหญ่ จะรู้สึกขัดใจและไม่ได้ดั่งใจทำให้เกิดความเบื่อหน่ายที่ เจ้าของอาร์เซนอลล่าสุด เหมือนไม่เห็นความสำคัญ ซึ่งถ้ามองกันในแง่ของจิตวิญญาณ ของการทำทีมฟุตบอล
ส่วนเรื่องข่าวการซื้อทีม ที่ได้ติดต่อมาอย่าง แดเนียล เอ็ก เขาก็คือผู้ก่อตั้ง Spotify คือแพลตฟอร์มบริการสตรีมเพลงดัง และพอดแคสต์ รวมถึงวิดีโอชื่อดัง ที่เป็นสัญชาติของอเมริกา ซึ่งหลายคนก็อาจจะไม่มีใครทราบอีกด้วย ว่าเขาก็คือ แฟนพันธุ์แท้ของทีมปืนใหญ่อาร์เซนอลมาตั้งแต่เขาเป็นเด็กๆ แล้ว
ทำให้แฟนบอลส่วนใหญ่ก็เลยรู้สึกว่า มีความหวังขึ้นมาว่าชายคนนี้แหละ ที่น่าจะมาเป็น เจ้าของอาร์เซนอลล่าสุด คนใหม่ ที่สามารถเอาใจใส่เรื่องของฟุตบอล มากกว่าเรื่องของธุรกิจที่ เจ้าของอาร์เซนอล อย่าง โกรเอ็นเก กำลังเป็นอยู่ในตอนนั้น และก็ใช้เวลามาอีกหลายปี ซึ่งวันนี้เขาก็ทำให้เห็นแล้ว ว่าทีมปืนใหญ่ขึ้นไปอยู่ในท็อปโฟว์ เหมือนเดิมแล้วจริงไหมคะ