ผู้จัดการบาเยิร์น มิวนิค สั่งปลดคนเดิมรับคนใหม่อย่าง โทมัส ทูเคิ่ล

ถ้าใครได้ติดตามข่าววงการฟุตบอลที่มีการเปลี่ยน ผู้จัดการบาเยิร์น คือสั่งปลด นาเกิลส์มันน์ เพื่อตั้ง โทมัส ทูเคิ่ล กลางฤดูกาล 2023 ซึ่งปกติเขามักจะไม่ค่อยจะทำกัน สำหรับเรื่องนี้พวกเราที่เกาะติดสถานการณ์ฟุตบอลโลกได้ทราบข่าวจากประทาน แฮร์เบิร์ด ไฮเนอร์ ออกมาให้สัมภาษณ์ข่าวช็อกไม่แพ้ เมซุต โอซิล ที่เกี่ยวกับ การปลดแบบฟ้าผ่าของ นาเกิลส์มันน์ บางคนอ่านคำทำนายฝัน ฝันเห็นแมวหลายตัว แล้วมาติดตามเรื่องราวที่น่าเหลือเชื่อของชายคนนี้

ซึ่งในบทสัมภาษณ์นั้นทางประธานสโมสร บาเยิร์น มิวนิค ได้บอกว่า โค้ช นาเกลส์มันน์ ถือได้ว่าเป็นโค้ชชั้นนำ และเคยพิสูจน์ฝีมือมาแล้วตอนที่ทีม บาเยิร์น มิวนิค ได้สู้ศึกกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ว่าเขานั้นเป็นโค้ชที่ยอดเยี่ยมระดับตำนานของยุโรป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่มีความชำนาญทางด้าน แท็กติกและ กลยุทธ์การเล่น ซึ่งทีแรกก็มีสัญญาการจ้างกันเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งทางทีมก็ได้เห็นถึงความสามารถตลอดระยะเวลา 1 ปีและที่ผ่านมาเขาทำได้ดี

โทมัส ทูเคิ่ล

แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับอดีต ผู้จัดการบาเยิร์น คนเก่า

ความจริงมันก็เกิดจากหลากหลายเหตุผลด้วยกัน และถ้าหากว่าเราได้ย้อนคำพูดกลับไปของไอเนอร์ จะมีคำพูดหนึ่งที่อาจจะเป็นประเด็นก็คือ การสร้างสิ่งดีๆ ที่ช่วยให้เกิดระบบการสร้างทีมบาร์เยิร์นให้เป็นยุคใหม่ ที่พร้อมจะก้าวไปข้างหน้าแบบไม่หยุดยั้งซึ่งในตอนนั้น นาเกิลส์มันน์ คือสุดยอดของ โค้ชบาเยิร์น อัจฉระยะที่ถูกเลือก จากการที่เขาได้รับการยกย่อง ไม่ใช่แค่ในประเทศเท่านั้นแต่เขาก็ยังเป็น โค้ชบาเยิร์น ที่ถูกจับตามอง ว่าเขานี่แหละจะเป็นคนที่พาทีม ไปสู่จุดสูงสุดของวงการฟุตบอลโลก

จากสาเหตุนี้แหละที่ทำให้ทางทีมบาร์เยิรน์ตัดสินใจจ่ายเงินก้อนใหญ่เพื่อจะได้โค้ชยุคใหม่แนวหน้าเป็นจำนวนเงินถึง 25 ล้านยูโรซึ่งใครๆ ต่างก็บอกว่ามันแพงเกินไปสำหรับตำแหน่ง โค้ชบาเยิร์น โดยเฉพาะสำหรับการเป็นโค้ชในทีมดังอย่างบาร์เยิร์น ที่แน่นอนว่าโค้ชทั่วโลกไม่เว้น ผู้จัดการลิเวอร์พูล ต่างก็อยากจะมาอยู่ด้วยอยู่แล้ว

บาเยิร์น มิวนิค

โค้ช บาเยิร์น คนเก่า เปรียบเสมือนอัญมณีที่ยังไม่ได้รับการเจียระไน

ทำให้เขาก็เลยยังไม่สามารถเปล่งประกายได้อย่างเต็มที่ ทำให้ตลอดระยะเวลา 1 ปีครึ่งที่เขาทำงาน ได้สร้างงานของทีมบาร์เยิร์น ภายใต้การควบคุมของเขานั้นมีช่วงเวลาที่ทั้งขึ้นและลง เรียกว่าทำให้ทีมเกิดภาวะสะดุด ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ฝ่ายบริหารของทีมอย่าง ฮาซาน ซาลิฮามิดซิซ และอีกคนคือ โอลิเวอร์ คาห์น ที่เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการและเป็นซีอีโอของสโมสรเก็บเอาไว้ในใจเสมอมา

และถึงแม้ว่าทางผู้ใหญ่ของทีม บาเยิร์น มิวนิค จะให้การสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ ในเรื่องของการทำงานรวมไปถึงการแข่งขันใน ยูโรป้าลีก 2023 แต่ก็ไม่เว้นที่จะจับตาดูผลงานของเขามาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงของฤดูกาลที่ทำเขาได้ทำผลงานออกมาอย่างยอดเยี่ยม ในรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ซึ่งได้ทำผลงานชนะรวดทั้ง 8 เกม โดยเฉพาะการที่ได้เขี่ย ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ให้ร่วงตกรอบไปได้

แต่ว่าผลงานในบุนเดสลีกาเกิดสะดุดซะงั้น คือทำแต้มตกหล่นจนทำให้เสียตำแหน่งจ่าฝูงไปให้แก่ทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนต์ ทำให้ทางฝ่ายบริหารเกิดความไม่สบายใจและได้ประชุมทบทวนเรื่องตำแหน่งของเขา นั่นเป็นเพราะว่าต่อจากนี้ไป ทีมบาร์เยิร์นจะเริ่มเข้าสู่ช่วงเวลาที่สำคัญอย่างเกม Der Klassiker ที่แน่นอนว่าจะต้องเจอกับ ดอร์ทมุนต์ เรื่องนี้ส่งผลทำให้ทีมไม่สามารถลุ้นแชมป์ บุนเดสลีก้า 11 สมัยติดต่อกัน

บาเยิร์น มิวนิค ล่าสุด

ถ้าต้องเจอเข้ากับ แมนเชสเตอร์ซิตี้ที่เคยเป็นแชมป์ลีก

ทำให้เกมที่จะถึงจะต้องถูกจับตามองการทำงานของ นาเกิลส์มันน์ ซึ่งเรื่องนี้ทางฝ่ายผู้บริหารน่าจะ ไม่เชื่อ ว่าอดีตโค้ชคนนี้จะทำได้ ซึ่งงานนี้นาเกิลส์น่าจะพาทีมให้ก้าวผ่านด่านทั้งสองได้ยากอย่างมากแน่นอน ในความหมายก็คือถ้าทีมบาร์เยิร์นพลาดแชมป์ทั้งบุนเดสลีกาและแชมป์ลีกด้วย ก็จะกลายเป็นฤดูกาลที่ล้มเหลวอย่างมากสำหรับสโมสรนี้ และสิ่งนี้ในมุมมองของทางฝ่ายบริหารไม่สามารถยอมรับได้

บาเยิร์นเปิดตัวกุนซือ ใหม่อย่าง โทมัส ทูเคิ่ล

มีการเปิดตัวที่ทางอดีตกุนซือของทีมเชลซีได้รับค่าแรง ซึ่งเป็นตัวเลขที่อาจจะมากกว่ากุนซือคนก่อนแต่ว่าก็ยังน้อยกว่าสมัยที่อยู่กับทีมเชลซี ซึ่งค่าแรงที่ได้รับกับทีมนี้อยู่ที่ 446.25 ล้านบาทแต่ก็น้อยกว่าตอนอยู่เชลซีที่ได้ปีละ 552.5 ล้นปอนด์และถึงแม้ว่าจะหายไป 106.25 ล้านปอนด์ต่อปีก็ตามแต่ โค้ชบาเยิร์น มิวนิค ล่าสุด ก็ยังยินดีรับเงื่อนไขเข้ามาคุมทีมให้กับบาร์เยิร์น มิวนิค

ผลสุดท้ายบาร์เยิร์นก็ประกาศแยกทางกับ ผู้จัดการบาเยิร์น อย่าง โทมัส ทูเคิ่ล

เมื่อปีที่ผ่านมานี้ทางกุนซือใหญ่อดีตบอสของเชลซีที่เคยสร้างชื่อเสียงไว้โด่งดังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ เพราะว่าทีมแพ้ 3 นัดติดกัน และเมื่อเขาเข้ามารับงานนี้ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2023 เขาได้คุมทีมให้ผ่านไปทั้งหมดคือ 44 นัดผลงานก็คือพาทีมชนะได้แค่ 28 นัด เสมอไป 5 นัดและแพ้ถึง 11 นัดทำให้สถานการณ์ดูไปแล้วไม่ค่อยดี แถมมีแต้มที่ตามจ่าฝูงถึง 8 คะแนน และเหลือการแข่งขันแค่ 22 เกมเท่านั้น

ทำให้ทางฝ่ายบริหารก็เลยออกมาชี้ชะตาหลังจากจบฤดูกาลว่า ทูเคิ่ล จะไม่สามารถดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการบาเยิร์น ต่อไปอย่างแน่นอนเลยทีเดียวค่ะแล้วแบบนี้ นักเตะบาเยิร์น อดีต หรือแฟนคลับ บาเยิร์น มิวนิค ล่าสุด จะออกมาแสดงความเห็นอย่างไรกันบ้างเราคงต้องติดตามกันต่อไปค่ะ